วิปัสสนาไม่ยากอย่างที่คิด
คำนำ
ยังจำได้ว่าเมื่อเริ่มฝึกกรรมฐานใหม่ๆ ดิฉันเกิดศรัทธาท่วมท้น ด้วยความรู้สึกว่า นี่แหละคือหนทางพาเราพ้นทุกข์ พอกลับจากเข้ากรรมฐานครั้งแรกก็เห่อจัด เที่ยวหาหนังสือธรรมะมาอ่านยกใหญ่ แล้วก็พบความจริงว่าดิฉันอ่อนด้อยในความรู้ทางธรรมเอามากๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง มีคำที่ไม่เข้าใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความลังเลสงสัยของดิฉันพอกหนาขึ้นๆกว่าจะได้พบอาจารย์บางท่านที่กรุณาอธิบายจนกระจ่าง ต่อมาดิฉันได้พบเพื่อนๆโยคีที่ประสบปัญหาเดียวกันอีกหลายคน จากการถกปัญหากัน เราเลยโทษว่า เป็นเพราะภาษาไทยมีคำบาลีปะปนอยู่มากมาย บางคำปะปนมานานจนเกิดความหมายใหม่ที่ผิดเพี้ยนไปจากภาษาดั้งเดิม หนังสือธรรมะหลายๆเล่มที่บรรยายหรือแปลโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ท่านได้ใช้คำเหล่านี้ในความหมายเดิมแท้ในภาษาบาลี แต่เราผู้อ่อนด้อยความรู้กลับเข้าใจไปอีกทาง เช่น อ้าว มานะไม่ดีตรงไหน….เอ๊ะ..โยนิโสมนสิการแปลว่าอะไร…เอ…สภาวะธรรมที่อาจารย์ให้ตามดูหน้าตาเป็นอย่างไร ฯลฯ…ดิฉันสื่อสารด้วยภาษาของชาวบ้านที่"อ่อนซ้อม"นี่เอง จึงได้มึนอยู่นาน เมื่อได้ปฏิบัติมากขึ้น อ่านมากขึ้น ฟังธรรมมากขึ้น ดิฉันจึงเริ่มเข้าใจดีขึ้น แต่ไม่เคยลืมความงุนงงสับสนที่เคยประสบมา เห็นใจและเข้าใจทุกครั้ง ที่เห็นแววตาสับสน ลังเล สงสัย ของเพื่อนโยคีใหม่หลายๆท่าน
จนกระทั่งดิฉันได้มีโอกาสเป็นล่ามแปลสอบอารมณ์ให้กับท่านอาจารย์ พระกัมมัฏฐานาจริยะ อู ชนกาภิวงศ์ (โยคีไทยส่วนมากรู้จักท่านในนามว่า เชมเย สยาดอ) เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2547 หลังจากที่เรียนถามท่านถึงความหมายของภาษาบาลีบางคำ(ที่ปะปนในภาษาธรรมของไทย-ที่ยังทยอยมาให้ดิฉันงงอยู่ไม่รู้แล้ว) ก็ได้เล่าให้ท่านฟังถึงเรื่องความ”อ่อนซ้อม”ที่ผ่านๆมา ท่านอาจารย์ขำในความไม่รู้ของดิฉัน และมีเมตตาค้นหาต้นฉบับหนังสือภาษาอังกฤษที่ท่านกำลังเรียบเรียงจากบทบรรยายธรรมหลายๆครั้งของท่านเพื่อเตรียมพิมพ์เผยแพร่ ท่านมอบหมายให้ดิฉันแปลด้วยภาษาง่ายๆแบบชาวบ้านที่"อ่อนซ้อม"นี่แหละ แล้วเผยแพร่ให้โยคีใหม่ที่ ”อ่อนซ้อม” ด้วยกันอ่าน และนี่คือที่มาของหนังสือเล่มนี้ ท่านอาจารย์ เชมเย สยาดอ นั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นเลิศในการอธิบายข้อธรรมะที่ยากและลึกซึ้งให้เข้าใจได้ง่ายๆ ต้นฉบับภาษาอังกฤษที่ท่านอาจารย์มอบให้นั้น แม้จะพิมพ์ตัวเล็กมาก ก็ยังหนาถึง ๗๕ หน้า ดิฉันเกรงว่า คนอ่านจะขยาดเล่มหนาจนท้อถอยก่อนเปิดอ่าน จึงได้กราบขออนุญาตท่านแบ่งออกเป็น ๓ เล่มย่อย หนังสือชุดนี้จึงแบ่งออกเป็นหนังสือเล่มย่อมๆ ขนาดชวนอ่าน ๓ เล่มด้วยกัน คือ เล่มที่ ๑: วิปัสสนากรรมฐาน ไม่ยากอย่างที่คิด และ ปฏิจจสมุปบาท เรื่องยากที่ต้องรู้ เล่มที่ ๒ : อานาปานสติ : สมถกรรมฐาน หรือ วิปัสสนากรรมฐาน และ เมตตาภาวนา ปิดท้ายด้วยเล่มที่ ๓: วิปัสสนาญาณก้าวหน้าอย่างไร
ดิฉันได้รับความกรุณาจากเพื่อนๆ พี่ๆโยคีผู้มีประสบการณ์ในการปฏิบัติสูงหลายๆท่าน ได้เป็นกำลังใจและช่วยแนะนำตรวจทานแก้ไขงานแปลชิ้นนี้ด้วย ทั้งพี่ผาณิต เจตน์จิราวัฒน์ ยังได้กรุณาเป็นบรรณาธิการต้นฉบับ ช่วยตรวจทาน แก้ไขและขัดเกลา ทำให้ดิฉันเกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น แต่เพื่อให้ผู้อ่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่แปลนี้เที่ยงตรงไม่ผิดพลาด ดิฉันจึงได้กราบอาราธนาท่านอาจารย์ พระมหาทองมั่น สุทธจิตโต เป็นผู้กรุณาตรวจทานความถูกต้องทั้งหมดอีกครั้ง อนึ่ง เนื่องจากต้นฉบับในภาษาอังกฤษนั้นคาดว่าถอดเทปจากธรรมบรรยาย จึงมีลักษณะเป็นการเทศนา มีทั้งการตั้งคำถามและเวียนสอนย้ำซ้ำๆหลายหนเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจและจดจำได้ เมื่อจะแปลมาเป็นหนังสือสำหรับอ่าน ดิฉันคิดว่าการแปลในลักษณะประโยคต่อประโยคคงไม่เหมาะ จะวกวนสับสนสำหรับการอ่านเกินไป จึงใช้วิธีถอดความย่อหน้าต่อย่อหน้าแทน ทั้งนี้ หากมีข้อบกพร่องผิดพลาดประการใด ดิฉันผู้ยัง”อ่อนซ้อม”ใคร่ขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียวทุกประการ
ทั้งหมดนี้ เกิดจากความปรารถนาดีต่อโยคีใหม่ทุกท่าน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยไขความกระจ่างในวิธีการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและธรรมะที่เกี่ยวเนื่อง อีกทั้ง อยากเป็นกำลังใจให้ทุกท่านได้เพิ่มความวิริยะ พากเพียร อดทน มุ่งมั่นปฏิบัติธรรมจนกว่าจะบรรลุถึงทางพ้นทุกข์คือ พระนิพพาน ด้วยกันทุกท่านเทอญ.
มณฑาทิพย์ คุณวัฒนา – ผู้แปล
คำอนุโมทนา
“ วิปัสสนากรรมฐานไม่ยากอย่างที่คิด ” เป็นชื่อของหนังสือธรรมะภาคปฏิบัติเล่มนี้ พอเห็นชื่อหนังสือ ก็ทำให้อยากอ่าน อยากรู้ว่าไม่ยากจริงหรือเสียแล้ว เป็นหนังสือธรรมะภาคปฏิบัติ ซึ่งคุณมณฑาทิพย์ คุณวัฒนา ได้เพียรถอดจากเทปธรรมะบรรยาย ของพระกัมมัฏฐานาจริยะ อู ชนากาภิวงศ์ ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทย เพื่อให้โยคีซึ่งสนใจหลักปฏิบัติธรรมเบื้องต้นได้อ่าน เมื่ออาตมาภาพอ่านแล้วก็รู้สึกว่าเข้าใจง่าย บางอย่างก็เพิ่งมารู้นี่เอง ท่านผู้แปลได้เรียบเรียงเป็นภาษาที่อ่านเข้าใจง่าย จัดวรรคตอน หัวข้อ เพื่อให้อ่านง่ายทั้งสามารถนำไปปฏิบัติได้เลย นับว่าเป็นหนังสือที่มีคุณค่าอีกเล่มหนึ่ง ที่ผู้สนใจในการปฏิบัติธรรมควรมีไว้ประจำตัว มีไว้ประจำบ้าน เผื่อมีปัญหา จะได้หยิบอ่านทันที
ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของ คุณมณฑาทิพย์ คุณวัฒนา และคณะผู้จัดทำ ผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพพิมพ์ทุกๆท่านไว้ณที่นี้ ขอให้ผลบุญนี้ เป็นปัจจัยให้ผู้จัดทำ และผู้ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพพิมพ์เผยแผ่ทุกๆท่าน ได้เกิดดวงตาเห็นธรรมในอนาคตกาลอันใกล้นี้ และหากมีโอกาสได้ปฏิบัติธรรม ก็ขอให้ได้รับคำแนะนำจากผู้ที่รู้และเข้าใจในหลักการปฏิบัติอย่างแท้จริง ได้บรรลุผลโดยพลัน คิดและปรารถนาสิ่งใดที่ชอบประกอบด้วยธรรมแล้วขอให้สมดังที่ต้องการทุกประการเทอญ
ขอเจริญพร
พระมหาทองมั่น สุทฺธจิตฺโต
วัดภัททันตะอาสภาราม จ.ชลบุรี
๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๗